5 วิธีการป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม

กรมควบคุมโรค ห่วงประชาชนเจ็บป่วยจาก 3 กลุ่มโรคและ 3 ภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก แนะ 5 วิธีการป้องกัน คาดฤดูฝนนี้จะพบรายงานผู้ป่วยโรคต่างๆเพิ่มขึ้น ล่าสุดพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยเริ่มมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้บางพื้นที่อาจเกิดน้ำป่าไหลหลากหรือน้ำท่วมได้ กรมควบคุมโรคจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามทางไหลของน้ำป่าหรือพื้นที่เคยประสบอุทกภัย ระวังและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ ทั้งนี้ ขอให้ระวัง 3 กลุ่มโรค 3 ภัยสุขภาพที่มาจากน้ำท่วม ได้แก่ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ และกลุ่มโรคที่มาจากน้ำขัง รวมถึง 3 ภัยสุขภาพ คือ สัตว์แมลงมีพิษกัด/ต่อย พยาธิที่มากับน้ำท่วม และการจมน้ำ
โรคที่ประชาชนต้องระวังมีดังนี้ 1.กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ คือ โรคไข้หวัดใหญ่และโรคปอดบวม 2.กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ คือ โรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง 3.กลุ่มโรคที่มาจากน้ำขัง คือ โรคไข้ฉี่หนู โรคตาแดง และโรคไข้เลือดออก ทั้ง 3 กลุ่มโรคในช่วงฤดูฝนนี้พบรายงานผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วน 3 ภัยสุขภาพ คือ สัตว์แมลงมีพิษกัด/ต่อย อาทิ งู แมงป่อง ตะขาบ เป็นต้น พยาธิที่มักพบมากับน้ำท่วม คือ พยาธิเส้นด้าย (พยาธิสตรองจีลอยด์) และการจมน้ำ มีรายงานพบปะปรายตลอดทั้งปี คาดพื้นที่ที่มีน้ำท่วมจะพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น
สถานการณ์โรคและภัยสุขภาพจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. 61 พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในช่วงหน้าฝน โดยโรคไข้หวัดใหญ่มีผู้ป่วย 74,793 ราย เสียชีวิต 10 ราย โรคปอดบวมมีผู้ป่วย 145,476 ราย เสียชีวิต 105 ราย โรคไข้ฉี่หนูป่วย 1,262 ราย เสียชีวิต 10 ราย โรคไข้เลือดออกมีผู้ป่วยจำนวน 37,793 ราย เสียชีวิต 45 ราย โรคอุจจาระร่วงป่วย 751,539 ราย เสียชีวิต 6 ราย  ส่วนโรคอาหารเป็นพิษมีผู้ป่วย 72,487 ราย และโรคตาแดงมีผู้ป่วย 53,701 ราย  ภัยสุขภาพปีที่ผ่านมา พบเหตุการณ์คนถูกสัตว์มีพิษกัด ต่อยมากกว่า 100 ครั้ง และการจมน้ำรายงานล่าสุดเมื่อ เมษายน 61 มีเสียชีวิตแล้ว 42 ราย
อย่างไรก็ตาม วิธีป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่มากับน้ำท่วมหรือน้ำป่าไหลหลาก สามารถปฏิบัติได้โดย 1) อย่าทิ้งขยะทุกชนิด หรือขับถ่ายของเสียลงน้ำท่วมขัง ให้ทิ้งขยะหรือสิ่งปฏิกูลลงในถุงพลาสติกและมัดปากถุงให้แน่นแล้วเก็บไว้ในที่แห้ง 2) อย่าปล่อยให้เด็กเล็กลงเล่นน้ำโดยลำพัง เพราะเด็กอาจจมน้ำและช่วยเหลือไม่ทัน และอาจรับเชื้อจากน้ำที่มีสิ่งสกปรก ทำให้ป่วยด้วยโรคตาแดง โรคพยาธิสตรองจีลอยด์ หรือถูกสัตว์มีพิษที่หนีน้ำมากัด ต่อยได้  3) หากน้ำท่วมขังกระเด็นเข้าตาหรือมีฝุ่นละอองเข้าไปในตา ให้ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าและดวงตาให้สะอาด เพื่อป้องกันโรคตาแดงได้ 4) รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ร้อน สะอาด เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษและโรคอุจจาระร่วง 5) หากจำเป็นต้องเดินลุยน้ำเป็นเวลานาน ควรใส่รองเท้าบู๊ททุกครั้ง เพื่อป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม รีบทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำสะอาดและเช็ดให้แห้งทันที หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

แหล่งที่มา : https://www.thaihealth.or.th

อ่านเพิ่มเติม

หน้ากากสำหรับหายใจใต้น้ำ สำเร็จแล้ว !

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2019 สำนักข่าว CNN ได้รายงานความสำเร็จของทีมนักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยศิลปะ Royal College of Art ประเทศอังกฤษ และสถาบัน RCA-IIS Tokyo ในการออกแบบหน้ากากสำหรับหายใจใต้น้ำ ชื่อว่า AMPHIBIO

โดยหลักการทำงานของมัน มีกระบวนการเหมือนเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำทั่วไป แต่ต่างกันตรงที่ ดีไซน์ไม่เทอะทะ น้ำหนักเบา และสามารถผลิตได้จากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ

Jun Kamei หัวหน้าทีมนักออกแบบเผยว่า ไอเดียการออกแบบ “หน้ากาก AMPHIBIO” มาจากความต้องการที่อยากจะลดขนาดของเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ ให้มีขนาดพอเหมาะกับสรีระของมนุษย์มากขึ้น แต่ยังมีประสิทธิภาพการทำงานเต็มที่คงเดิม

ซึ่งแม้ว่าในปัจจุบันจะมีอุปกรณ์มากมายที่ถูกคิดค้นขึ้นด้วยไอเดียเดียวกัน แต่ประสิทธิภาพของอุปกรณ์รุ่นใหม่เหล่านั้น กลับไม่สามารถเทียบเท่าเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำแบบมาตรฐานได้เลย

ขั้นตอนการใช้งาน 1.สวมใส่ชุดพร้อมนำหน้ากากครอบปากและจมูก 2.ต้องดำน้ำลงไปที่ความลึก 32 เมตร เพื่อให้ตัวชุดรวบรวมอ็อกซิเจนจากน้ำที่ไหลผ่านรูเล็ก ๆ รอบชุดได้ 3.ออกซิเจนที่ได้จะถูกส่งต่อไปยังหน้ากากเพื่อให้ผู้สวมใส่ใช้หายใจ 4.ตัวหน้ากากจะช่วยกรองเอาอากาศเสียออกไป และกระบวนการจะวนซ้ำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ (บทความนี้ขอไม่พูดถึงหลักการทำงานที่เกี่ยวกับไนโตรเจน เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป)

จากการทดสอบเบื้องต้นในห้องปฎิบัติการพบว่า “หน้ากาก AMPHIBIO” สามารถทำการแลกเปลี่ยนก๊าซได้จริงตามที่นักวิจัยออกแบบไว้ (ดึงออกซิเจนออกมาจากน้ำ และนำคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการหายใจของเราออกไป) ซึ่งในขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำไปทดสอบนอกห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงจะยืนยันเพื่อวางขายในอนาคต

“ปัญหาของเราในตอนนี้คงจะเป็น การฝึกฝนให้มือใหม่สามารถใช้หน้ากากนี้ได้อย่างคล่องแคล่วขึ้น เนื่องจากมันยังเป็นอุปกรณ์รูปแบบใหม่ที่หลายคนยังไม่คุ้นเคยนัก ผมเชื่อว่าการท่องเที่ยวในโลกใต้ทะเลจะเปลี่ยนไปทั้งหมด เราจะสามารถดำน้ำดูปะการังได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ถังดำน้ำที่มีความยุ่งยากในการใช้งานเลย”

“ทีมงานของเรามองไกลไปถึงอนาคต เพราะหากภาวะโลกร้อนยังเป็นอยู่แบบนี้ ภายในปี 2100 อุณหภูมิของโลกจะร้อนขึ้น 3.2 องศาเซลเซียส ทำให้ผู้คนกว่า 30% ทั่วโลก อาจต้องอาศัยอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเล หรืออาจเลวร้ายจนถึงขั้นต้องใช้ชีวิตลอยอยู่บนผืนน้ำเลยทีเดียว” – Jun Kamei กล่าว

แหล่งข้อมูล : https://www.flagfrog.com/mask-for-human-under-water-world/

อ่านเพิ่มเติม

“โปรโมชั่นปิดเทอมเล็ก”

…มาแล้วครับบ “โปรโมชั่นปิดเทอมเล็ก”

เพียงสมัครคอร์ส ตั้งแต่วันนี้ – 5 ตุลาคม 2562

?? รับส่วนลดไปเลย 500​ ทุกคอร์สเรียน!!??

กติกาและเงื่อนไขพิเศษ
? นักเรียนต้องเริ่มเรียน ไม่เกินวันที่ 15 ตุลาคม​ 2562
? อายุคอร์ส​​ 60​ วัน
? กดไลค์ และแชร์รูป Promotion ” ปิดเทอมเล็ก” เป็น สาธารณะ​
พร้อมแคปหน้าจอหลักฐานส่งให้ทางแอดมิน เพื่อยืนยันสิทธิ์
? หรือ ติดดาวให้คำแนะนำ ติชม
ที่เพจ ? https://www.facebook.com/pg/SwimmingHome/reviews/
พร้อมแคปหน้าจอหลักฐานส่งให้ทางแอดมิน เพื่อยืนยันสิทธิ์
?ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Voucher ของทางโรงเรียนได้

?รีบมาสมัครเรียนกันนะครับ?,

?กดติดดาว ⭐️ เพจด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดโพสต์ของเราครั

อ่านเพิ่มเติม

กพฐ. ดัน”เด็กไทยว่ายน้ำเป็น100% “ทุกโรงเรียนต้องพาไปฝึก

1เม.ย.62- เตรียม ชง บอร์ด กพฐ. คลอดนโยบายส่งเสริมเด็กไทยว่ายน้ำเป็น 100% วันที่ 19 เม.ย.นี้ ให้ทุกโรงเรียนต้องปฎิบัติ “เอกชัย” ชี้ไม่สร้างภาระ ให้โรงเรียน.แต่เป็นการเพิ่มอัตราการรอดชีวิตของเด็ก

 

 

นายเอกชัย กี่สุขพันธุ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ประธาน กพฐ.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) วันที่ 19 เมษายนนี้ ตนจะเสนอให้ที่ประชุมออกเป็นนโยบายเรื่องการส่งเสริมให้เด็กไทยว่ายน้ำเป็น 100% โดยเรื่องนี้จะไม่สร้างภาระให้แก่โรงเรียนว่าจะต้องสร้างสระว่ายน้ำ แต่โรงเรียนสามารถบูรณาการใช้สระว่ายน้ำจากชุมชน สโมสรในพื้นที่ต่างๆได้ โดยอาจทำเป็นข้อตกลงร่วมกันให้คิดค่าใช้จ่ายในการใช้สระว่ายน้ำไมแพง เช่น สระว่ายน้ำคิดราคา 40 บาท แต่ในทางปฎิบัติอาจเรียกเก็บ 20 บาท แต่ไม่เป็นไรให้สระว่ายน้ำคิดราคาที่เป็นจริงหลังจากนั้นให้บริจาคคืน 20 บาทโรงเรียนออกใบเสร็จรับเงินทางสระว่ายน้ำก็จะลดภาษีได้สองเท่า เป็นต้น ซึ่งถือเป็นแรงจูงใจให้หน่วยงานที่มีสระว่ายน้ำช่วยสนับสนุน

 

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ส่วนโรงเรียนไหนในพื้นที่นั้นไม่มีสระว่ายน้ำของชุมชนก็ไม่เป็นไร อาจประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้สร้างมีการสร้างสระว่ายน้ำชุมชน หรือโรงเรียนไหนมีพื้นที่ก๋สามารถสร้างสระว่ายน้ำได้ และมาคำณวนว่าจะให้บริการโรงเรียนละแวกนั้นได้กี่แห่ง ทั้งนี้หากเราดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังเชื่อว่าเด็กไทยทุกคนจะว่ายน้ำเป็นอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาการเรียนรู้เรื่องว่ายน้ำเป็นการเรียนรู้แค่ทักษะเบื้องต้นเท่านั้น แต่ไม่ได้มีการสอนว่ายน้ำอย่างจริงจังเกิดขึ้น อีกทั้งจัดการเรียนรู้สอนว่ายน้ำเป็นโครงการที่ทำปีละไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งหากเรื่องนี่ออกมาเป็นนโยบายให้ทุกโรงเรียนถือเป็นแนวปฏิบัติอย่างจริงจังจะทำให้เด็กรอดชีวิตจากการว่ายน้ำได้มากที่สุด เนื่องจากที่ผ่านมาเราพบสถิติเด็กไทยเสียชีวิตในช่วงปิดภาคเรียนจำนวนมากมีอัตรา 1 ใน 3 ของเด็กที่จมน้ำเสียชีวิต

 

“หลักสูตรการสอนว่ายน้ำไม่ใช่สอนให้เด็กว่ายน้ำเป็นอย่างเดียว แต่ต้องสอนให้เด็กลอยตัวในน้ำได้ไม่น้อยกว่ากี่นาที รวมถึงทักษะการเอาตัวรอดในน้ำให้ได้ด้วย ถ้าหากเราทำเป็นนโยบายว่าเด็กไทยต้องว่ายน้ำเป็น 100% โรงเรียนจะวิ่งหาหน่วยงานที่มีสระว่ายน้ำทันที แต่หากเราไม่ออกแนวปฎิบัติให้จริงจังโรงเรียนก็ไม่สนใจ ซึ่งการว่ายน้ำของเด็กเป็นเรื่องสำคัญมาก”ประธาน กพ

 

แหล่งที่มา: ไทยโพสต์

 

อ่านเพิ่มเติม

?Swimming Home New Area?

?Swimming Home New Area?
เปิดโซนใหม่แล้วนะ รู้ยัง…
“พระราม 9 -​ รัชดา -​ ลาดพร้าว -​บางเขน -​ รามอินทรา -​ ลำลูกกา”

??Promotion??
สมัครตั้งแต่วันนี้ – 30 มิถุนายน​ 2562
ฟรี ค่าเดินทาง 20 กิโลเมตรแรก
**จาก เซ็นทรัลลาดพร้าว**

?รีบมาสมัครกันเยอะๆ นะคร้าบบ บ?

อ่านเพิ่มเติม